วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2556

ปิดเทอมจึงได้เที่ยว: ถ้ำเอลโรล่า

ห่างหายไปนานครับ เพราะอะไรไม่รู้ ไม่ค่อยได้เข้ามาเขียนเลย อิอิ แต่ว่ามาคราวนี้เลยเอาข้อมูลเกี่ยวกับถ้ำเอลโลร่า (Ellora Cave) มาฝากกันเผื่อว่าท่านใดที่สนใจจะไปนะครับ ซึ่งถ้ำเอลโลร่าเป็นถ้ำที่ถือว่าอยู่ไม่ไกลจากเมืองออรังคาบาดเท่าไหร่ สามารถนั่งรถไปกลับได้ภายในครึ่งวัน (ผมทำแบบนี้แหละ)

      สำหรับนักท่องเที่ยว หากใครเคยอ่าน เคยฟัง เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับถ้ำสองถ้ำที่มีความเกี่ยวข้องกันทางศาสนา คงไม่มีเคยไม่เอ่ยถึงถ้ำอชันตาและถ้ำเอลโลร่า มีคนเคยกล่าวไว้ว่าหากใครได้ชมถ้ำอชันตาแล้วถ้ำเอลโลราก็ดูเหมือนจะไร้ความหมาย เพราะความวิจิตรพิศดารและความงามอยู่ที่ถ้ำอชันตาหมด แต่หากมองกันให้ดีจะเห็นว่าถ้ำอชันตาและถ้ำเอลโลรานั้นมีความมหัศจรรย์กันคนละแบบ ถ้ำอชันตามีความงดงามแต่มีเพียงศาสนาเดียวคือพระพุทธศาสนาเพียงแต่มีสองนิกายหลักคือมหายานและเถรวาท ส่วนถ้ำเอลโลรานั้นมีถึงสามศาสนาซึ่งมีความแตกต่างทางความเชื่อคนละอย่าง ภูเขาลูกเดียวกันทั้งสามศาสนาคือศาสนาพุทธ ศาสนาฮินดูและศาสนาเชน ที่ถ้ำเอลโลรา เมืองออรังกบาด ประเทศอินเดีย ถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์โดยเจาะภูเขาหินทั้งลูกจนกลายเป็นถ้ำ
      ถ้ำเอลโลรา เป็นถ้ำสามศาสนา สร้างขึ้นต่างกรรมต่างวาระกัน มีวัตถุประสงค์ต่างกันคือ
      ถ้ำของพระพุทธศาสนานั้นสร้างถ้ำขึ้นเพื่อใช้เป็นวัดหรือสังฆารามและใช้เพื่อประกอบพิธีสังฆกรรม และใช้เป็นที่พักอาศัย จึงมีสังฆารามเป็นที่อยู่อาศัยของพระภิกษุ มีสถานที่สำหรับใช้เพื่อการศึกษาพระพุทธศาสนาทั้งหอสวดมนต์ หอฉัน บางถ้ำใช้เป็นเหมือนโรงเรียนที่พระภิกษุใช้ในการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมซึ่งมีหลักฐานที่ถ้ำหมายเลขสิบเอ็ดเป็นอาคารสามชั้นเจาะเข้าไปในผนังหิน
• ส่วนถ้ำของศาสนาฮินดูนั้น เป็นถ้ำที่แกะสลักอย่างงดงามวิจิตรพิศดาร ใหญ่โต เป็นถ้ำที่แกะสลักรูปเคารพของมหาเทพ อาทิ พระศิวะ พระแม่อุมาเทวี พระวิษณุ พระพรหม รวมทั้งการเล่าเรื่องราวของมหาเทพผ่านรูปแกะสลักต่างๆ มีเครื่องประดับมากมาย แสดงความยิ่งใหญ่แห่งศาสนาของตน มีประตูทางเข้าใหญ่โต สิ่งก่อสร้างและรูปเคารพที่ปรากฎในถ้ำของฮิดูจึงดูโดดเด่นกว่าศาสนาพุทธและศาสนาเชน
       ส่วนถ้ำของศาสนาเชนนั้นมีการแกะสลักหินที่งดงามไม่แพ้ถ้ำของศาสนาฮินดู แต่มีลักษณะที่โดดเด่นอย่างหนึ่งคือเป็นถ้ำที่แกะสลักรูปเคารพของศาสนดา คือพระมหาวีระ หรือ นิครนถนาฏบุตร ซึ่งมี 2 นิกายคือ นิกายทิคัมพร กลุ่มนักบวชที่นุ่งลมห่มฟ้า และ นิกายเศวตัมพร กลุ่มนักบวชที่นุ่งขาวห่มขาว จึงน่าจะสร้างขึ้นเพื่อเผยแผ่ศาสนาเป็นหลัก ถ้าหากไม่สังเกตให้ดีอาจจะมองว่ารูปแกะสลักของศาสดามหาวีระกับพระพุทธเจ้านั้นมีลักษณะใกล้เคียงกันมาก แต่มีข้อสังเกตคือศาสดามหาวีระมีลักษณะเปลือยกายไม่มีริ้วจีวร บางภาพถึงกับแสดงให้เห็นถึงอวัยวะเพศชายชัดเจน แต่ภาพพระพุทธเจ้าจะมีริ้วจีวรชัดเจน
ส่วนของหน้าถ้ำเอลโลร่า เขาไกรลาส (ถ้ำศาสนาฮินดู)


เสาหินตั้งตระหง่านกลางหุบเขาที่เจาะลงมาจากด้านบน เพื่อสร้างเทวสถาน เขาไกรลาส


อีกมุมของเสาหิน ซึ่งมีหลายต้นให้ท่านได้รับชม (ต้องไปดูเอาเองจะได้อารมณ์)

ภายในถ้ำศาสนาพุทธ (เดาเอาว่าหากไม่เป็นที่ฉันภัตตาหาร ก็เป็นธรรมสภา)

อีกมุมซึ่งถ่ายมาจากภายในถ้ำ มองให้เห็นถึงความสวยงามและความโอ่อ่าของถ้ำ

เสาหินที่มีการแกะสลัก (จำไม่ได้ว่าถ้ำไหน)

อ่างน้ำและทางเดินเพื่อไปถ้ำอีกถ้ำหนึ่งของศาสนาฮินดู
(บอกได้ว่าเย็นมากเพราะเวลาเดินผ่านมีละอองน้ำที่ตกมาจากด้านบนด้วย)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น