วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

พระพุทธเมตตา

     หลวงพ่อพระพุทธเมตตา ถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน ประดิษฐานภายในเจดีย์พุทธคยา เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๑๔๗ เซนติเมตร สูง ๑๖๕ เซ็นติเมตร สร้างด้วยเนื้อหินทราย สมัยปาละ มีอายุประมาณ ๑๔๐๐ ปี ผินพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก ซึ่งได้รอดพ้นจากการถูกทำลายจากการรุกรนของกษัตริย์ฮินดูได้

BM     ในศตวรรตที่ ๑๓ มีกษัตริย์ฮินดูนามว่าพระเจ้าสาสังกา ของรัฐเบงกอล ที่ไม่ต้องการที่จะอยู่ภายใต้การปกครองของแคว้นมคธ ซึ่งมีพระเจ้าปุรณวรมา เป็นผู้ปกครองในสมัยนั้น ด้วยการที่ต้องการประกาศตนเป็นอิสระจากการปกครองของแคว้น จึงได้กรีฑาทัพมาด้วยหวังทำลายจุดศูนย์กลางของแคว้นมคธ คือบริเวณดินแดนแห่งต้นพระศรีมหาโพธิ์ทันที ด้วยหมายจะทำลายขวัญของกษัตริย์และประชาชนแคว้นมคธเสียก่อน แล้วจึงค่อยยกทัพไปตีเมืองหลวงในขั้นต่อไป เพราะบริเวณพุทธคยานี้มีต้นพระศรีมหาโพธิ์และพระพุทธเมตตาเป็นหัวใจสำคัญที่ชาวพุทธให้ความเคารพนับถือกราบไหว้บูชากันมาก ทำให้การขยายตัวทางพระพุทธศาสนาได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น
     เมื่อกษัตริย์ชาวฮินดูได้เข้ายึดบริเวณพุทธคยาแล้วได้รับสั่งให้ทหารเริ่มระร้านกิ่งก้านสาขาต้นพระศรีมหาโพธิ์และตัดรากจนหมดสิ้น แม้แต่รากต้นพระศรีมหาโพธิ์จะเลื้อยชอนไชไปในทิศทางใดก็สั่งให้ทหารขุดรากออกให้หมด จากนั้นก็สั่งให้ฟางอ้อยต่างเชื้อเพลิงวางสุ่มที่ตอแห่งต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้วลาดน้ำมันจุดไฟเผา ด้วยประสงค์จะมิให้หน่อแห่งต้นพระศรีมหาโพธิ์ได้มีโอกาสงอกขึ้นมาเลย
     จากนั้นรับสั่งให้ทหารเข้าไปในพระมหาวิหารแล้วสั่งให้เสนาบดีนำพระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อหินทราย ออกไปจากมหาวิหาร แต่เผอิญเสนาบดีเป็นผู้มีศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้าคิดว่า หากมาตรแม้นว่าเราจะนำพระพุทธรูปองค์นี้ออกไปเสียจากวิหารแล้วซร์ ก็เกรงกลัวว่าจะเกิดไม่ทันศาสนาพระศรีอาริย์ แต่ถ้าเราไม่นำออกไปตามพระบัญชา เราก็จะต้องถูกประหารชีวิตโดยไม่ต้องสงสัย ทันใดนั้น ความคิดอย่างหนึ่งก็ได้เกิดขึ้นมา แล้วกราบทูลแต่พระราชาว่า พระพุทธรูปองค์นี้ใหญ่โตมากยากที่จะนำออกไปในวันนี้ได้ ข้าพระองค์ใคร่ขอโอกาสสัก ๗ วัน เพื่อหาทางนำพระพุทธรูปองค์นี้ออกไปจากพระวิหารให้จงได้ พระเจ้าสาสังกาจึงตกลงพระทัยยอมให้ปฏิบัติตามคำขอร้องของเสนาบดี
     ฝ่ายเสนาบดี ครั้นให้คำมั่นสัญญาเรียบร้อยแล้ว จึงได้เริ่มแผนการตามที่ตนคิดไว้ในใจ โดยใช้แผ่นอิฐมากก่อเป็นกำแพงกำบังพระพุทธรูปไว้อย่างมิดชิด พร้อมกับตั้งประทีปโคมไฟบูชาไว้ภายในกำแพงที่กั้นปิดไว้
     ครั้นครบ ๗ วันจึงกราบทูลพระราชาว่า บัดนี้เกล้ากระหม่อมฉันได้จัดการนำพระพุทธรูปออกไปจากพระมหาวิหารแล้ว พระเจ้าสาสังกา พอได้สดับคำเช่นนั้น แทนที่พระองค์จะยินดีปรีดาเพราะความปรารถนาของพระองค์สำเร็จแล้ว แต่พระองค์กลับทรงเสียพระทัยถึงกับมีพระโลหิตออกจากปากและจมูก แล้วล้มลงต่อหน้าหมู่ทหารและสวรรคต ณ ที่นั้นเอง
    ในขณะที่กองทัพพระเจ้าสาสังการอการกรีฑาทัพอยู่ ณ พุทธคยานั้นนั่นเอง กษัตริย์แคว้นมคธคือพระเจ้าปุรณวรมา ได้เสด็จยกทัพมาถึงพอดี ฝ่ายพวกกองทัพของพระเจ้าสาสังกาซึ่งต่างอกสั่นขวัญหนีอยู่ก่อนแล้วก็ยิ่งเสียขวัญไปกันอีก ต่างแยกย้ายหนีเอาตัวรอดไปคนละทิศละทางด้วยหมายจะเอาชีวิตรอดโดยไม่สนใจสิ่งใดอื่นอีก จากนั้นพระเจ้าปุรณวรมาได้ทรงสั่งให้ทหารได้แกะแผ่นอิฐออกจึงปรากฎเป็นพระพุทธเมตตาดังที่ได้ปรากฎให้เราท่านได้กราบไหว้ตราบทุกวันนี้
     ปัจจุบันพระพุทธเมตตา ซึ่งเป็นพระประธานในพระเจดีย์พุทธคยาที่อยู่คู่กันกับต้นพระศรีมหาโพธิ์ มีพระพักตร์ที่เปี่ยมด้วยความเมตตาเสมือนหนึ่งเป็นตัวเเทนแห่งการระลึกถึงพระเมตตาคุณของพระพุทธองค์ ที่เมื่อทรงตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ได้เมตตาโปรดสั่งสอนไวนัยสัตว์ทั้งเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายให้ได้รู้ตามคำสั่งสอนของพระองค์ ซึ่งได้ผ่านกาลเวลามายาวนาน จนเป็นหนึ่งในจุดหมายของการเดินทางจาริกธรรมแสวงบุญของพุทธศาสนิกชนทุกสารทิศ จากทุกนิกาย หลากหลายวิถีปฏิบัติ ต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา ทั่วโลก ซึ่งต่างมุ่งเดินทางสู่พุทธคยา เพื่อจักได้เจริญจิตภาวนา สวดมนต์ปฏิบัติบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอันเป็นการบูชาสูงสุดในทางพระพุทธศาสนา

 
คำบูชาหลวงพุทธเมตตา อินเดีย
(ตั้งนะโม ๓ จบ)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะฯ
*********************

      วันทามิ อิมัง พุทธะเมตตาปะฏิมัง อิมังสะมิง คะยาสีสา ปูชาระเห สักการะภูเต เจติยัง สุปะติฏฐิตัง ฯ อิมินา ปะนะ วันทะมาเนนะ มา มา ทะลิททิยัง อาหุ ฯ   พะหุชะนานัง ปิโย โหมิ มะนาโป สาธุ โน ภันเต อิเมหิ สักกาเรหิ อะภิปูชะยามิ ฯ
     คำแปล ข้าพเจ้าขอกราบไหว้ พระพุทธเมตตาปฏิมานี้ซึ่งประดิษฐานตั้งมั่นดีแล้ว ในองค์พระเจดีย์ที่คยาสีสะประเทศนี้ อันเป็นสถานที่ควรแก่เครื่องบูชาสักการะ ฯ ด้วยการกราบไหว้นี้ ขอความเป็นผู้ขัดสนอย่าได้มีแก่ข้าพเจ้าเลย ขอให้ข้าพเจ้าเป็นทีรัก เป็นที่พอใจของคนทั่วไป ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอบูชาโดยยิ่งด้วยเครื่องสักการะเหล่านี้ฯ

ปล.ขอบคุณหลวงพี่,หลวงน้า,หลวงตา,พระธรรมวิทยากรที่ได้เมตตามอบความรู้นี้ให้กระผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น